การออกแบบอย่างชาญฉลาด
From Wikipedia, the free encyclopedia
การออกแบบอย่างชาญฉลาด (อังกฤษ: intelligent design, ID) เป็นข้อโต้เถียงเพื่อสนับสนุนการมีตัวตนอยู่ของพระผู้สร้างเชิงวิทยาศาสตร์เทียม โดยตั้งข้อสมมติฐานที่มองว่าสิ่งมีชีวิตดูเหมือนว่าจะได้รับการออกแบบโดยสิ่งมีชีวิตทรงปัญญา มากกว่าที่จะเกิดขึ้นด้วยกับกระบวนทางธรรมชาติแบบสุ่มโดยไร้ทิศทาง โดยพิจารณาจากหลักฐานเชิงประจักษ์ทางวิทยาศาสตร์ ที่แสดงให้เห็นว่าสิ่งมีชีวิตมีความซับซ้อนที่ลดทอนไม่ได้ (irreducible complexity) และจักรวาลมีการปรับแต่งอย่างดี (fine tune) เกินกว่าจะเป็นเพียงความบังเอิญหรือเดาสุ่มโดยไม่มีจุดหมาย[1] [2]ซึ่งสิ่งเหล่านี้ไม่อาจมีคำอธิบายที่ดีอย่างอื่นนอกจากการที่ถูกออกแบบโดยความฉลาด และไม่ได้เกิดจากกระบวนการที่ทางวัตถุที่มืดบอดไม่ได้รับการชี้นำ เช่น การคัดเลือกโดยธรรมชาติ[3] นักการศึกษา นักปรัชญา และวงการวิทยาศาสตร์ ได้แสดงหลักฐานให้เห็นแล้วว่าแนวคิดนี้เป็นข้อถกเถียงเชิงภววิทยาและอภิปรัชญา โดยในวงการวิทยาศาสตร์จะแบ่งออกเป็น 2 ฝ่ายตามลักษณะความเชื่อ ฝ่ายที่เชื่อเรื่องการสร้างจะอยู่ในซีกของฝั่งที่เรียกว่า รังสรรค์วิทยา (creationist) และอีกฝ่ายที่เชื่อว่าไม่มีผู้สร้าง แต่ยึดเอาทฤษฎีวิวัฒนาการเป็นคำอธิบายจะอยู่ในซีกของนักวิวัฒนาการ (Evolutionist) ซึ่งปัจจุบันนักวิทยาศาสตร์ฝ่ายที่สองจะมีความคิดไปในทางวิทยาศาสตร์ที่มีแนวคิดแบบปรัชญาวัตถุนิยมและธรรมชาตินิยม ซึ่งเชื่อเรื่องธรรมชาตินิยมเชิงกระบวนการ (methodological naturalism)
บทความนี้ทั้งหมดหรือบางส่วน มีเนื้อหา รูปแบบ หรือลักษณะการนำเสนอที่ไม่เหมาะสมสำหรับสารานุกรม |
นักวิทยาศาสตร์ฝ่ายการออกแบบอันชาญฉลาดในปัจจุบัน ประกอบด้วย ดร.สตีเฟน เมเยอร์ แห่งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์[4], ดร.ดักราสจ์ แอ็กซ์[5], ดร. เจมส์ ทัวร์ นักเคมี 10 อันดับต้นของโลก[6] เป็นต้น ซึ่งได้รับแรงบรรดาลใจจากนักวิทยาศาสตร์ผู้ยิ่งใหญ่ในช่วงปฏิวัติวิทยาศาสตร์ อย่างเช่น นิโคลัส โคเปอร์นิคัส, ฟรานซิส เบคอน[7], กาลิเลโอ กาลิเลอิ[8], เรอเน เดการ์ต[9], ไอแซก นิวตัน, ไมเคิล ฟาราเดย์[10], หลุยส์ อังกัสซิซ[11], เจมส์ แม็กซ์เวล[12], โรเบิร์ต บอล์ย[13] พวกเขาเป็นผู้บุกเบิกวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ที่เชื่อพระเจ้าทั้งสิ้น.