นวน เจีย
From Wikipedia, the free encyclopedia
นวน เจีย (เขมร: នួន ជា นวน ชา; 7 กรกฎาคม ค.ศ. 1926 – 4 สิงหาคม ค.ศ. 2019[4]) อาจรู้จักในชื่อ ลอง บุญรอด[5] หรือ ฬง บุนรวต[6] (เขมร: ឡុង រិទ្ធិ ฬง ริทฺธิ; อังกฤษ: Long Bunruot) และมีชื่อภาษาไทยว่า รุ่งเลิศ เหล่าดี[7][8] เป็นนักการเมืองสายคอมมิวนิสต์ของกัมพูชา เป็นผู้นำอันดับสองของเขมรแดงรองจากพล พต จนถูกเรียกกันว่า "พี่ชายหมายเลขสอง"[8] หรือ "พี่รอง"[9]
ข้อมูลเบื้องต้น นวน เจีย, ประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภา สภาผู้แทนราษฎรประชาชนกัมปูเจีย ...
นวน เจีย | |
---|---|
នួន ជា | |
นวน เจียใน ค.ศ. 2013 | |
ประธานคณะกรรมาธิการสามัญประจำสภา สภาผู้แทนราษฎรประชาชนกัมปูเจีย | |
ดำรงตำแหน่ง 13 เมษายน ค.ศ. 1976 – 7 มกราคม ค.ศ. 1979 | |
ประธานาธิบดี | เขียว สัมพัน |
รอง | ฌิต เชือน |
ผู้นำ | พล พต (เลขาธิการทั่วไป) |
ก่อนหน้า | ก่อตั้งตำแหน่ง |
ถัดไป | ยุบเลิกตำแหน่ง |
นายกรัฐมนตรีกัมพูชาประชาธิปไตย | |
รักษาการ | |
ดำรงตำแหน่ง 27 กันยายน ค.ศ. 1976 – 25 ตุลาคม ค.ศ. 1976 | |
ประธานาธิบดี | เขียว สัมพัน |
ผู้นำ | พล พต (เลขาธิการทั่วไป) |
ก่อนหน้า | พล พต |
ถัดไป | พล พต |
รองเลขาธิการพรรคคอมมิวนิสต์กัมปูเจีย | |
ดำรงตำแหน่ง 30 กันยายน ค.ศ. 1960 – 6 ธันวาคม ค.ศ. 1981 | |
เลขาธิการทั่วไป | ตู สามุต พล พต |
ก่อนหน้า | ก่อตั้งตำแหน่ง |
ถัดไป | ไม่มี ถูกยุบ |
ข้อมูลส่วนบุคคล | |
เกิด | เล้า กิมลอน 7 กรกฎาคม ค.ศ. 1926(1926-07-07) วัดกร จังหวัดพระตะบอง กัมพูชา อินโดจีนของฝรั่งเศส |
เสียชีวิต | 4 สิงหาคม ค.ศ. 2019(2019-08-04) (93 ปี) พนมเปญ ประเทศกัมพูชา |
ที่ไว้ศพ | ศาลานอก จังหวัดไพลิน ประเทศกัมพูชา |
เชื้อชาติ | อินโดจีนของฝรั่งเศส (1926–1941) ไทย (1941–1960) กัมพูชา (1960–2019) |
พรรคการเมือง | พรรคคอมมิวนิสต์กัมพูชา (1960–1981) |
การเข้าร่วม พรรคการเมืองอื่น | พรรคคอมมิวนิสต์สยาม[1] |
คู่สมรส | ลี กิมเซ้ง[2] |
บุตร | 4 คน[3] |
ศิษย์เก่า | มหาวิทยาลัยธรรมศาสตร์ |
ปิด
เขาเป็นที่ต้องการตัวจากสหประชาชาติ เพื่อนำตัวไปดำเนินคดีข้อหาฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ ที่ศาลพิเศษคดีอาชญากรสงคราม กรุงพนมเปญ ประเทศกัมพูชา พร้อมกับเอียง ซารี, เขียว สัมพัน และเอียง ธิริทธ์ (เขียว ธิริทธ์) ภริยาของนายเอียง ซารี[10] โดยวันที่ 7 สิงหาคม พ.ศ. 2557 นวน เจีย และเขียว สัมพัน ถูกตัดสินให้จำคุกตลอดชีวิต ในคดีฆ่าล้างเผ่าพันธุ์ชาวเขมรกว่าสองล้านคนช่วงเขมรแดงเรืองอำนาจ[11]