ผู้ใช้:Phaisit16207/กระบะทราย 9
From Wikipedia, the free encyclopedia
จักรวรรดิรัสเซีย[lower-alpha 5] เป็นจักรวรรดิในประวัติศาสตร์ที่มีอาณาเขตกว้างขวางตั้งแต่ยูเรเชียจนถึงอเมริกาเหนือตั้งแต่ ค.ศ. 1721 โดยสืบทอดจากอาณาจักรซาร์รัสเซียหลังการทำสนธิสัญญานีสตาดซึ่งยุติมหาสงครามเหนือ จักรวรรดิรัสเซียดำรงอยู่จนกระทั่งสาธารณรัฐรัสเซียได้รับการประกาศจัดตั้งโดยรัฐบาลเฉพาะกาลซึ่งเข้ายึดอำนาจหลังการปฏิวัติในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 1917[3][4] จักรวรรดิรัสเซียเป็นจักรวรรดิที่ใหญ่ที่สุดเป็นอันดับที่ 3 ในประวัติศาสตร์ ณ ช่วงเวลาหนึ่ง จักรวรรดิรัสเซียได้แผ่ขยายดินแดนไปถึงสามทวีป ได้แก่ ทวีปยุโรป เอเชีย และอเมริกาเหนือ แต่ในเรื่องของขนาดนั้น เป็นรองจากจักรวรรดิบริติชและจักรวรรดิมองโกลเท่านั้น การผงาดขึ้นของจักรวรรดิรัสเซียเกิดขึ้นพร้อมกับการเสื่อมอำนาจของมหาอำนาจข้างเคียงที่เป็นคู่แข่ง เช่น จักรวรรดิสวีเดน เครือจักรภพโปแลนด์–ลิทัวเนีย เปอร์เซีย จักรวรรดิออตโตมัน และจีนสมัยราชวงศ์ชิง
นี่คือหน้าทดลองเขียนของ Phaisit16207 หน้าทดลองเขียนเป็นหน้าย่อยของหน้าผู้ใช้ ซึ่งผู้ใช้มีไว้ทดลองเขียนหรือไว้พัฒนาหน้าต่าง ๆ แต่นี่ไม่ใช่หน้าบทความสารานุกรม ทดลองเขียนได้ที่นี่ หน้าทดลองเขียนอื่น ๆ: หน้าทดลองเขียนหลัก |
จักรวรรดิรัสเซีย Российская Империя (รัสเซียสมัยใหม่) Россійская Имперія (การสะกดก่อน ค.ศ. 1918) Rossiyskaya Imperiya | |||||||||
---|---|---|---|---|---|---|---|---|---|
ค.ศ. 1721–ค.ศ. 1917 | |||||||||
ตราแผ่นดิน
(ค.ศ.1883–1917) | |||||||||
เพลงชาติ: "Гром победы, раздавайся!" Grom pobedy, razdavaysia![l 2] (ค.ศ. 1791–1816) ("ขอสายฟ้าแห่งชัยชนะจงฟาดลงมา!") (ไม่เป็นทางการ) "Коль славен наш Господь в Сионе" Kol' slaven nash Gospod' v Sione[l 3] (ค.ศ. 1794–1816) ("พระเป็นเจ้าของเรารุ่งโรจน์เพียงใดในไซออน") (ไม่เป็นทางการ) "Молитва русских" Molitva russkikh[l 4] (ค.ศ. 1816–1833) ("คำภาวนาแห่งชาวรัสเซีย") "Боже, Царя храни!" Bozhe Tsarya khrani![l 5] (ค.ศ. 1833–1917) ("พระเจ้าทรงคุ้มครองซาร์!") | |||||||||
จักรวรรดิรัสเซียใน ค.ศ. 1914 ดินแดนที่ส่งมอบให้ประเทศอื่นก่อน ค.ศ. 1914 รัฐในอารักขาหรือดินแดนภายใต้การยึดครอง | |||||||||
เมืองหลวง | เซนต์ปีเตอส์เบิร์ก (ค.ศ. 1721–1728; ค.ศ. 1730–1917) มอสโก (ค.ศ. 1728–1730)[ต้องการอ้างอิง] | ||||||||
เมืองใหญ่สุด | เซนต์ปีเตอส์เบิร์ก | ||||||||
ภาษาราชการ | รัสเซีย | ||||||||
โปแลนด์ เยอรมัน (ในเขตผู้ว่าการบอลติก) ฟินแลนด์และสวีเดน | |||||||||
ศาสนา | โดยส่วนใหญ่: อีสเทิร์นออร์ทอดอกซ์ 71.10% โดยส่วนน้อย: อิสลาม 11.07% คาทอลิก 9.16% ยูดาห์ 4.16% โปรเตสแตนต์ 3.00% อัครทูตอาร์มีเนีย 0.94% อื่น ๆ 0.56% | ||||||||
เดมะนิม | ชาวรัสเซีย | ||||||||
การปกครอง | รัฐเดี่ยวภายใต้ระบอบสมบูรณาญาสิทธิราชย์ (ค.ศ. 1721–1906) รัฐเดี่ยวภายใต้ระบอบราชาธิปไตยกึ่งภายใต้รัฐธรรมนูญในระบบรัฐสภา[1] (ค.ศ. 1906–1917) | ||||||||
จักรพรรดิ | |||||||||
• ค.ศ. 1721–1725 (พระองค์แรก) | จักรพรรดิปีเตอร์ที่ 1 | ||||||||
• ค.ศ. 1894–1917 (พระองค์สุดท้าย) | จักรพรรดินิโคลัสที่ 2 | ||||||||
หัวหน้ารัฐบาล | |||||||||
• ค.ศ. 1810–1812 (คนแรก) | นีโคไล รูมียันเซฟ[lower-alpha 1] | ||||||||
• ค.ศ. 1917 (คนสุดท้าย) | นีโคไล กอลลิตซิน[lower-alpha 2] | ||||||||
สภานิติบัญญัติ | วุฒิสภาปกครอง[2] | ||||||||
• สภาสูง | สภาแห่งรัฐ (ค.ศ. 1810–1917) | ||||||||
• สภาล่าง | สภาดูมา (ค.ศ. 1905–1917) | ||||||||
ประวัติศาสตร์ | |||||||||
• สนธิสัญญานีสตัด | 10 กันยายน ค.ศ. 1721 | ||||||||
• สถาปนาจักรวรรดิ | 2 พฤศจิกายน ค.ศ. 1721 | ||||||||
• ทำเนียบบรรดาศักดิ์ | 4 กุมภาพันธ์ ค.ศ. 1722 | ||||||||
26 ธันวาคม ค.ศ. 1825 | |||||||||
• การปฏิรูปเลิกทาส | 3 มีนาคม ค.ศ. 1861 | ||||||||
18 ตุลาคม ค.ศ. 1867 | |||||||||
มกราคม ค.ศ. 1905 – กรกฎาคม ค.ศ. 1907 | |||||||||
• คำแถลงการณ์เดือนตุลาคม | 30 ตุลาคม ค.ศ. 1905 | ||||||||
• บังคับใช้รัฐธรรมนูญ | 6 พฤษภาคม ค.ศ. 1906 | ||||||||
8–16 มีนาคม ค.ศ. 1917 | |||||||||
14 กันยายน ค.ศ. 1917 | |||||||||
พื้นที่ | |||||||||
• รวม | 22,800,000 ตารางกิโลเมตร (8,800,000 ตารางไมล์) (อันดับที่ 3[lower-alpha 3]) | ||||||||
ประชากร | |||||||||
• ค.ศ. 1914 ประมาณ | 164,000,000 (อันดับที่ 3) | ||||||||
• ค.ศ. 1897 | 125,640,021 | ||||||||
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | ค.ศ. 1900–1917 (ประมาณ) | ||||||||
• รวม | 106.299 พันล้าน (อันดับที่ 6) | ||||||||
สกุลเงิน | รูเบิล | ||||||||
|
ตั้งแต่คริสต์ศตวรรษที่ 10 ถึงคริสต์ศตวรรษที่ 17 ดินแดนรัสเซียถูกปกครองโดยโบยาร์ ซึ่งเป็นชนชั้นขุนนาง ผู้ซึ่งเหนือกว่านั้นคือซาร์ ซึ่งในเวลาต่อมาจะกลายเป็นจักรพรรดิในอนาคต ซาร์อีวานที่ 3 (ค.ศ. 1462–1505) ได้วางรากฐานสำหรับจักรวรรดิที่จะปรากฏขึ้นในอนาคต พระองค์ทรงขยายดินแดนของรัสเซียออกไปเป็นสามเท่า ยุติการครอบงำของโกลเดนฮอร์ด ปรับปรุงเครมลินแห่งมอสโก และวางรากฐานของรัฐรัสเซีย ราชวงศ์โรมานอฟเป็นราชวงศ์ที่ปกครองจักรวรรดิรัสเซียตั้งแต่การก่อตั้งจักรวรรดิใน ค.ศ. 1721 จนถึง ค.ศ. 1762 ราชวงศ์ฮ็อลชไตน์-ก็อทตาร์ฟ-โรมานอฟ ซึ่งเป็นสาขาฝั่งมารดาของเชื้อสายเยอรมันที่สืบทอดทางบิดา ปกครองจักรวรรดิรัสเซียตั้งแต่ ค.ศ. 1762 จนถึงการสิ้นสุดของจักรวรรดิรัสเซีย ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 จักรวรรดิรัสเซียมีอาณาเขตที่กว้างขวาง จากมหาสมุทรอาร์กติกทางตอนเหนือ จรดทะเลดำทางตอนใต้ และจากทะเลบอลติกทางทิศตะวันตก จรดอะแลสกาและแคลิฟอร์เนียในทวีปอเมริกาเหนือ ทางทิศตะวันออก[5]
ตามการสำมะโนครัวประชากรใน ค.ศ. 1897 จักรวรรดินี้มีประชากรอยู่ที่ 125.6 ล้านคน ซึ่งเป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับ 3 ของโลกในยุคนั้น รองลงมาจากจีนสมัยราชวงศ์ชิงและอินเดีย เช่นเดียวกับจักรวรรดิอื่น ๆ จักรวรรดิรัสเซียมีความหลายทางด้านเศรษฐกิจ ชาติพันธุ์ ภาษา และศาสนาเป็นอย่างมาก จักรวรรดิรัสเซียมีเศรษฐกิจที่มาจากการทำเกษตรกรรมเป็นส่วนใหญ่ โดยตั้งอยู่บนที่ดินขนาดใหญ่ ซึ่งชาวนารัสเซียต้องทำงานอย่างไม่ได้ก่อเกิดผลอะไร ซึ่งรู้จักกันดีในฐานะ "ทาสติดที่ดิน" ผู้ที่ถูกผูกมัดอยู่กับดินแดนภายใต้การจัดการของระบบศักดินา ทาสติดที่ดินนั้นได้รับอิสรภาพใน ค.ศ. 1861 แต่ชนชั้นสูงที่เป็นเจ้าของที่ดินดังกล่าวยังคงควบคุมที่ดินอยู่ เศรษฐกิจนั้นก็ค่อย ๆ เปลี่ยนเป็นเศรษฐกิจทางด้านอุตสาหกรรม โดยได้รับความช่วยเหลือจากการลงทุนจากต่างประเทศ ในเรื่องการรถไฟและโรงงาน องค์ประกอบที่ไม่ลงรอยหลายประการทำเกิดการก่อกบฎและการลอบสังหารในหลายศตวรรษที่ผ่านมา ในคริสต์ศตวรรษที่ 19 ตำรวจลับของจักรวรรดิรัสเซียได้จับตาผู้ที่เห็นต่างอย่างใกล้ชิด และหลายพันคนถูกเนรเทศไปยังไซบีเรีย
จักรพรรดิปีเตอร์ที่ 1 (ค.ศ. 1682–1725) ทรงต่อสู้อยู่ในสงครามอยู่หลายครั้ง และขยายอาณาเขตของจักรวรรดิที่กว้างขว้างอยู่แล้ว ให้เป็นมหาอำนาจในยุโรปที่สำคัญ พระองค์ทรงย้ายเมืองหลวงจากมอสโก ไปยังเมืองจำลองแห่งเซนต์ปีเตอส์เบิร์ก ซึ่งตัวเมืองส่วนใหญ่ถูกสร้างขึ้นตามรูปแบบตะวันตก He led a cultural revolution that replaced some of the traditionalist and medieval social and political mores with a modern, scientific, Western-oriented, and rationalist system. Empress Catherine the Great (1762–1796) presided over a golden age; she expanded the state by conquest, colonization, and diplomacy, while continuing Peter I's policy of modernization along Western European lines. Tsar Alexander I (1801-1825) played a major role in defeating Napoleon's ambitions to control Europe, as well as constituting the Holy Alliance of conservative monarchies. Russia further expanded to the west, south, and east, becoming one of the most powerful European empires of the time. Its victories in the Russo-Turkish Wars were checked by defeat in the Crimean War (1853-1856), which led to a period of reform and intensified expansion in Central Asia.[6] Emperor Alexander II (1855–1881) initiated numerous reforms, most dramatically the emancipation of all 23 million serfs in 1861. His policy in Eastern Europe officially involved the protection of Eastern Orthodox Christians within the Ottoman Empire. This was one factor leading to Russia's entry into World War I in 1914, on the side of the Allied powers against the Central Powers.
The Russian Empire functioned as an absolute monarchy on the ideological doctrine of Orthodoxy, Autocracy, and Nationality until the Revolution of 1905, when a nominal semi-constitutional monarchy was established. It functioned poorly during World War I, leading to the February Revolution and the abdication of Tsar Nicholas II, after which the monarchy was abolished. In the October Revolution, the Bolsheviks seized power, leading to the Russian Civil War. The Bolsheviks executed the imperial family in 1918 and established the Soviet Union in 1922 after emerging victorious from the civil war.