ประเทศลักเซมเบิร์ก
ประเทศในยุโรปตะวันตก / From Wikipedia, the free encyclopedia
ลักเซมเบิร์ก (อังกฤษ: Luxembourg; ลักเซมเบิร์ก: Lëtzebuerg; ฝรั่งเศส: Luxembourg; เยอรมัน: Luxemburg ) หรือชื่อทางการคือ ราชรัฐลักเซมเบิร์ก (อังกฤษ: Grand Duchy of Luxembourg; ลักเซมเบิร์ก: Groussherzogtum Lëtzebuerg; ฝรั่งเศส: Grand-Duché de Luxembourg; เยอรมัน: Großherzogtum Luxemburg ) เป็นประเทศที่ไม่มีทางออกสู่ทะเล อยู่ทางตะวันตกเฉียงเหนือของทวีปยุโรป มีพรมแดนด้านตะวันออกติดประเทศเยอรมนี ทางทิศใต้ติดฝรั่งเศส และทางทิศตะวันตกติดเบลเยียม มีเมืองหลวงคือนครลักเซมเบิร์ก[5] ซึ่งถือเป็นหนึ่งในสี่เมืองที่เป็นที่ตั้งของสถาบันสำคัญทั้งเจ็ดแห่งสหภาพยุโรป (ร่วมกับบรัสเซลส์ แฟรงก์เฟิร์ต และ สทราซบูร์) และยังเป็นที่ตั้งของสถาบันสำคัญหลายแห่งของทวีปรวมถึงศาลยุติธรรมแห่งสหภาพยุโรป[6][7]
ราชรัฐลักเซมเบิร์ก Groussherzogtum Lëtzebuerg (ลักเซมเบิร์ก) Grand-Duché de Luxembourg (ฝรั่งเศส) Großherzogtum Luxemburg (เยอรมัน) | |
---|---|
- สถานที่ตั้งของประเทศลักเซมเบิร์ก (สีเขียวเข้ม) - ในทวีปยุโรป (สีเขียวและสีเทาเข้ม) - ประเทศในกลุ่มสหภาพยุโรป (สีเขียว) | |
เมืองหลวง และเมืองใหญ่สุด | ลักเซมเบิร์ก1 49°48′52″N 6°7′54″E |
ภาษาราชการ | ภาษาเยอรมัน, ภาษาฝรั่งเศส และภาษาลักเซมเบิร์ก (โดยนิตินัยตั้งแต่ พ.ศ. 2527) |
ไม่เป็นทางการ | ภาษาดัตช์ |
การปกครอง | รัฐเดี่ยว ระบบรัฐสภา ราชาธิปไตยภายใต้รัฐธรรมนูญ |
• แกรนด์ดยุกผู้ปกครอง | แกรนด์ดยุกอ็องรีแห่งลักเซมเบิร์ก |
• แกรนด์ดยุกรัชทายาท | เจ้าชายกีโยม แกรนด์ดยุกรัชทายาทแห่งลักเซมเบิร์ก |
• นายกรัฐมนตรี | Luc Frieden |
สภานิติบัญญัติ | สภาผู้แทนราษฎร |
เอกราช | |
9 มิถุนายน พ.ศ. 2358 | |
19 เมษายน พ.ศ. 2382 | |
• สนธิสัญญาลอนดอนฉบับที่ 1 | 11 พฤษภาคม พ.ศ. 2410 |
• สิ้นสุดรัฐร่วมประมุข | 23 พฤศจิกายน พ.ศ. 2433 |
• เข้าร่วมสหภาพยุโรป | 25 มีนาคม พ.ศ. 2500 |
พื้นที่ | |
• รวม | 2,586 ตารางกิโลเมตร (998 ตารางไมล์) (169) |
0.60% | |
1 E9 | |
ประชากร | |
• มีนาคม 2564 ประมาณ | 633,622[1] (168th) |
• สำมะโนประชากร 2554 | 512,353 |
242 ต่อตารางกิโลเมตร (626.8 ต่อตารางไมล์) (58th) | |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | 2563 (ประมาณ) |
• รวม | $66.848 พันล้าน[2] (99th) |
• ต่อหัว | $112,045[2] (2nd) |
จีดีพี (ราคาตลาด) | 2562 (ประมาณ) |
• รวม | $69.453 พันล้าน[2] (69th) |
• ต่อหัว | $113,196[2] (1st) |
จีนี (2561) | 33.2[3] ปานกลาง |
เอชดีไอ (2562) | 0.916[4] สูงมาก · 23rd |
สกุลเงิน | ยูโร (€) 2 (EUR) |
เขตเวลา | UTC+1 (CET) |
UTC+2 (CEST) | |
รูปแบบวันที่ | dd/mm/yyyy |
ไฟบ้าน | 230 V–50 Hz |
ขับรถด้าน | ขวา |
รหัสโทรศัพท์ | 352 |
รหัส ISO 3166 | LU |
โดเมนบนสุด | .lu |
วัฒนธรรมลักเซมเบิร์ก อาทิ ภาษา และ วิถีชีวิตของผู้คน มีความเกี่ยวพันอย่างสูงกับประเทศเพื่อนบ้านอย่างเยอรมนี และ ฝรั่งเศส และแม้จะมีภาษาลักเซมเบิร์กเป็นภาษาประจำชาติ ทว่าภาษาเยอรมันและภาษาฝรั่งเศสก็ถูกใช้อย่างแพร่หลายในบริบททางกฎหมายและการปกครอง และทั้งสามภาษามีสถานะเป็นภาษาราชการโดยนิตินัย
ด้วยพื้นที่เพียง 2,586 ตารางกิโลเมตร (998 ตารางไมล์) ส่งผลให้ลักเซมเบิร์กเป็นรัฐอธิปไตยที่เล็กที่สุดแห่งหนึ่งในทวีปยุโรป[8] และใน ค.ศ. 2022 ลักเซมเบิร์กมีประชากรเพียง 645,397 คน[9] ถือเป็นหนึ่งในประเทศที่มีประชากรน้อยที่สุดในยุโรป แต่เป็นประเทศที่มีอัตราการเติบโตของประชากรสูงที่สุด[10] และชาวต่างชาติมีสัดส่วนเกือบครึ่งหนึ่งของประชากรทั้งหมด[11] ในฐานะตัวแทนประเทศประชาธิปไตยที่มีระบอบราชาธิปไตยตามรัฐธรรมนูญ ลักเซมเบิร์กอยู่ภายใต้การปกครองของแกรนด์ดยุกอ็องรีแห่งลักเซมเบิร์กซึ่งถือเป็นผู้สืบเชื้อสายจากขุนนางผู้ยิ่งใหญ่แห่งแกรนด์ดัชชีพระองค์สุดท้ายที่ยังหลงเหลืออยู่ เมืองลักเซมเบิร์กซึ่งมีป้อมปราการเก่าแก่ได้รับการประกาศให้เป็นมรดกโลกโดยองค์การยูเนสโกใน ค.ศ. 1994 อันเนื่องมาจากสถาปัตยกรรมอันสวยงาม
ประวัติศาสตร์ของลักเซมเบิร์กเริ่มต้นใน ค.ศ. 963[12] เมื่อเคานท์ซิเอกฟิลด์แห่งลักเซมเบิร์กได้สร้างปราสาทบริเวณเมืองหลวงปัจจุบัน[13] ต่อมา รัชทายาทของซิเอกฟิลด์ได้ขยายอาณาเขตผ่านการทำสงคราม และส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างข้าราชบริพารในช่วงปลายศตวรรษที่ 13 ต่อมา ใน ค.ศ. 1308 จักรพรรดิไฮน์ริชที่ 7 แห่งจักรวรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ทรงเป็นกษัตริย์แห่งเยอรมนีและในเวลาต่อมาได้กลายเป็นจักรพรรดิโรมันอันศักดิ์สิทธิ์ ราชวงศ์ลักเซมเบิร์กได้ให้กำเนิดจักรพรรดิจำนวน 4 พระองค์ในช่วงยุคกลางตอนปลาย และดินแดนแห่งนี้ได้กลายสภาพเป็นเครือราชรัฐบูร์กอญ ก่อนจะกลายเป็นหนึ่งในสิบเจ็ดจังหวัดของเนเธอร์แลนด์ของฮาพส์บวร์ค ตลอดหลายศตวรรษที่ผ่านมา เมืองและป้อมปราการแห่งลักเซมเบิร์กซึ่งมีความสำคัญทางยุทธศาสตร์ซึ่งตั้งอยู่ระหว่างราชอาณาจักรฝรั่งเศสและดินแดนฮาพส์บวร์ค ค่อย ๆ พัฒนาขึ้นจนกลายเป็นป้อมปราการที่มีชื่อเสียงมากที่สุดแห่งหนึ่งในยุโรป หลังจากที่ตกอยู่ภายใต้การครอบครองของฝรั่งเศสในรัชสมัยของพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 และออสเตรียของมาเรีย เทเรซา ลักเซมเบิร์กได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของสาธารณรัฐฝรั่งเศสที่หนึ่งและจักรวรรดิที่หนึ่งภายใต้การปกครองของจักรพรรดินโปเลียนที่ 1[14]
รัฐลักเซมเบิร์กในปัจจุบันได้ถือกำเนิดขึ้นจากการประชุมใหญ่แห่งเวียนนาใน ค.ศ. 1815 ก่อนที่เขตการปกครองแกรนด์ดัชชีซึ่งมีป้อมปราการอันแข็งแกร่งจะได้กลายสภาพเป็นรัฐอิสระภายใต้การครอบครองของพระเจ้าวิลเลิมที่ 1 แห่งเนเธอร์แลนด์ โดยมีกองทหารปรัสเซียคอยคุ้มกันเมืองจากอีกรัฐหนึ่ง ก่อนจะเผชิญการรุกรานจากฝรั่งเศสใน ค.ศ. 1839 หลังจากความวุ่นวายของการปฏิวัติเบลเยียม ส่งผลให้ดินแดนส่วนที่พูดภาษาฝรั่งเศสของลักเซมเบิร์กได้ถูกยกให้เบลเยียม และดินแดนอีกส่วนหนึ่งที่พูดภาษาลักเซมเบิร์ก (ยกเว้นอาเรเลอร์ลันด์ พื้นที่รอบอาร์ลอน) กลายมาเป็น ราชรัฐลักเซมเบิร์ก จนถึงปัจจุบัน[15]
ลักเซมเบิร์กเป็นประเทศพัฒนาแล้ว และแม้จะมีประชากรไม่มากแต่เป็นหนึ่งในประเทศที่มีความมั่งคั่งสูงที่สุดของยุโรป[16] โดยมีระบบเศรษฐกิจที่ก้าวหน้าและสวัสดิการคุณภาพ[17][18][19] และยังมีผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศสูง[20] ลักเซมเบิร์กเป็นผู้ก่อตั้งสหภาพยุโรป, องค์การเพื่อความร่วมมือและการพัฒนาทางเศรษฐกิจ, สหประชาชาติ, เนโท และ เบเนลักซ์[21][22] ลักเซมเบิร์กดำรงตำแหน่งในคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติใน ค.ศ. 2013–14 เป็นครั้งแรก และใน ค.ศ. 2022 พลเมืองลักเซมเบิร์กได้รับอนุมัติการตรวจลงตราที่ใช้เดินทางเข้าออกประเทศหรือเขตแดนได้มากถึง 189 ประเทศทั่วโลก โดยหนังสือเดินทางของลักซัมเบิร์กได้รับการจัดอันดับโดย แพลตฟอร์มการจัดอันดับดัชนีพาสปอร์ตทั่วโลก (Henley Passport Index) ให้เป็นหนังสือเดินทางที่ทรงอิทธิพลที่สุดเป็นอันดับ 4 ของโลก[23] เท่ากับฟินแลนด์ และ อิตาลี[24]