ประเทศจีน
ประเทศในทวีปเอเชีย / From Wikipedia, the free encyclopedia
สาธารณรัฐประชาชนจีน (จีนตัวย่อ: 中华人民共和国; จีนตัวเต็ม: 中華人民共和國; พินอิน: Zhōnghuá Rénmín Gònghéguó; อังกฤษ: People's Republic of China (PRC)) เป็นรัฐเอกราชในเอเชียตะวันออก เป็นประเทศที่มีประชากรมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก กว่า 1,400 ล้านคน โดยเป็นรองเพียงอินเดีย จีนมีพื้นที่กว่า 9.6 ล้านตารางกิโลเมตร นับเป็นประเทศที่มีพื้นที่ทั้งหมดใหญ่ที่สุดในโลกเป็นอันดับ 3 หรือ 4 แล้วแต่วิธีการวัด เป็นรัฐพรรคการเมืองเดียวปกครองโดยพรรคคอมมิวนิสต์จีน มีเมืองหลวงคือปักกิ่ง ในขณะที่เมืองที่มีประชากรมากที่สุดและเป็นศูนย์กลางทางธุรกิจคือเซี่ยงไฮ้ ประเทศจีนแบ่งการปกครองออกเป็น 22 มณฑล (ไม่รวมพื้นที่พิพาทไต้หวัน), 5 เขตปกครองตนเอง, 4 นครปกครองโดยตรง (ปักกิ่ง เทียนจิน เซี่ยงไฮ้ และฉงชิ่ง), และ 2 เขตบริหารพิเศษ ได้แก่ฮ่องกงและมาเก๊า จีนยังมีพรมแดนทางบกติดกับประเทศอื่น ๆ มากถึง 14 ประเทศ ถือเป็นหนึ่งในสองประเทศที่มีพรมแดนติดประเทศอื่นมากที่สุดเท่ากับรัสเซีย
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
สาธารณรัฐประชาชนจีน | |
---|---|
พื้นที่ที่สาธารณรัฐประชาชนจีนควบคุมแสดงในสีเขียวเข้ม บริเวณที่อ้างสิทธิ์แต่มิได้ควบคุมแสดงในสีเขียวอ่อน | |
เมืองหลวง | ปักกิ่ง 39°55′N 116°23′E |
ภาษาราชการ | ภาษาจีนมาตรฐาน[lower-alpha 1] |
ภาษาพื้นเมือง | |
Official script | อักษรจีนตัวย่อ[lower-alpha 2] |
กลุ่มชาติพันธุ์ (ค.ศ. 2020)[1] |
|
ศาสนา (ค.ศ. 2020)[2] | |
เดมะนิม | ชาวจีน |
การปกครอง | สาธารณรัฐสังคมนิยมลัทธิมากซ์–เลนิน[3] พรรคการเมืองเดียวสังคมนิยมอัตลักษณ์จีน |
สี จิ้นผิง | |
• ประธานคณะมนตรีรัฐกิจ (นายกรัฐมนตรี) | หลี่ เฉียง |
จ้าว เล่อจี้ | |
หวัง ฮู่หนิง | |
สภานิติบัญญัติ | สภาประชาชนแห่งชาติ |
การก่อตั้ง | |
ป. 2070 ปีก่อนคริสต์ศักราช | |
221 ปีก่อนคริสต์ศักราช | |
1 มกราคม ค.ศ. 1912 | |
• ประกาศสาธารณรัฐประชาชน | 1 ตุลาคม ค.ศ. 1949 |
• รัฐธรรมนูญฉบับแรก | 20 กันยายน ค.ศ. 1954 |
• รัฐธรรมนูญฉบับปัจจุบัน | 4 ธันวาคม ค.ศ. 1982 |
20 ธันวาคม ค.ศ. 1999 | |
พื้นที่ | |
• รวม | 9,596,961 ตารางกิโลเมตร (3,705,407 ตารางไมล์)[lower-alpha 6][6] (อันดับที่ 3/4) |
2.8[lower-alpha 7] | |
ประชากร | |
• สำมะโนประชากร 2021 | 1,412,600,000[8] (อันดับที่ 1) |
145[9] ต่อตารางกิโลเมตร (375.5 ต่อตารางไมล์) (อันดับที่ 83) | |
จีดีพี (อำนาจซื้อ) | ค.ศ. 2022 (ประมาณ) |
• รวม | 29.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ[10] (อันดับที่ 1) |
• ต่อหัว | 20,667 ดอลลาร์สหรัฐ[10] (อันดับที่ 70) |
จีดีพี (ราคาตลาด) | ค.ศ. 2022 (ประมาณ) |
• รวม | 18.46 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ[10] (อันดับที่ 2) |
• ต่อหัว | 12,990 ดอลลาร์สหรัฐ[10] (อันดับที่ 56) |
จีนี (ค.ศ. 2018) | 46.7[11] สูง |
เอชดีไอ (ค.ศ. 2019) | 0.761[12] สูง · อันดับที่ 85 |
สกุลเงิน | เหรินหมินปี้ (元/¥)[lower-alpha 8] (CNY) |
เขตเวลา | UTC+8 (เวลามาตรฐานจีน) |
รูปแบบวันที่ | |
ขับรถด้าน | ขวามือ (แผ่นดินใหญ่) ซ้ายมือ (ฮ่องกงและมาเก๊า) |
รหัสโทรศัพท์ | +86 (แผ่นดินใหญ่) +852 (ฮ่องกง) +853 (มาเก๊า) |
รหัส ISO 3166 | CN |
โดเมนบนสุด |
|
ดินแดนของประเทศจีนเป็นที่อยู่อาศัยของมนุษย์มาตั้งแต่ยุคหินเก่า ราชวงศ์แรก ๆ ในประวัติศาสตร์ อาทิ ราชวงศ์ชาง และ ราชวงศ์โจว เจริญรุ่งเรืองในลุ่มแม่น้ำเหลืองอันอุดมสมบูรณ์ตั้งแต่ปลายสหัสวรรษที่สองก่อนคริสตศักราช[13] ในช่วงศตวรรษที่สามถึงศตวรรษที่แปดก่อนคริสตศักราช ราชวงศ์โจวต้องเผชิญความขัดแย้งที่สำคัญ ในช่วงเวลาดังกล่าวยังเป็นต้นกำเนิดของปรัชญาและวรรณกรรมคลาสสิก จีนยึดระบบการเมืองแบบราชาธิปไตยหลายสหัสวรรษ ก่อนจะรวมกันเป็นปึกแผ่นครั้งแรกภายใต้จักรพรรดิในสมัยราชวงศ์ฉินเมื่อ 221 ปีก่อนคริสตกาล และอยู่ภายใต้การปกครองโดยอีกหลายราชวงศ์ อาทิ ราชวงศ์ฮั่น, ราชวงศ์ถัง, ราชวงศ์หมิง และ ราชวงศ์ชิง ในยุคนี้ยังเป็นจุดกำเนิดของเหตุการณ์สำคัญ อาทิ การประดิษฐ์ดินปืนและกระดาษ, การถือกำเนิดของเส้นทางสายไหม และการสร้างกำแพงเมืองจีน วัฒนธรรมจีนรวมถึงภาษา, ประเพณี, สถาปัตยกรรม, ปรัชญา มีอิทธิพลสูงต่อเขตวัฒนธรรมเอเชียตะวันออกในช่วงเวลานี้ ในช่วงปลายราชวงศ์ชิง ต้องเผชิญความขัดแย้งภายในรวมถึงภัยคุกคามภายนอกในยุคล่าอาณานิคมจากโลกตะวันตกนำไปสู่สงครามสำคัญหลายครั้ง
การปกครองโดยราชวงศ์สิ้นสุดลงใน ค.ศ. 1912 ด้วยการสละราชสมบัติของจักรพรรดิผู่อี๋ พร้อมกับการสถาปนาสาธารณรัฐจีนโดยพรรคก๊กมินตั๋ง ในวันที่ 1 มกราคม ค.ศ. 1912 ครึ่งแรกของคริสต์ศตวรรษที่ 20 เป็นยุคสมัยแห่งความแตกแยก และสงครามกลางเมืองซึ่งแบ่งประเทศออกเป็นค่ายการเมืองสองค่ายหลักคือ ก๊กมินตั๋งและพรรคคอมมิวนิสต์จีนซึ่งเริ่มต้นใน ค.ศ. 1927 ตามมาด้วยสงครามจีน–ญี่ปุ่นครั้งที่สองใน ค.ศ. 1937 ซึ่งกินเวลาในไปถึง ค.ศ. 1945 ระหว่างสงครามโลกครั้งที่สองสงครามกลางเมืองยุติลงชั่วคราว และจีนต้องพบกับเหตุการณ์รุนแรงที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์โดยกองทัพญี่ปุ่นจากเหตุการณ์การสังหารหมู่ที่หนานจิง ซึ่งส่งผลต่อความสัมพันธ์ที่ตึงเครียดระหว่างสองชาติมาถึงปัจจุบัน ความเป็นปฏิปักษ์ส่วนใหญ่สิ้นสุดลงใน ค.ศ. 1949 เมื่อฝ่ายคอมมิวนิสต์ชนะสงครามกลางเมือง และสถาปนาสาธารณรัฐประชาชนจีนขึ้นในจีนแผ่นดินใหญ่ ส่วนสาธารณรัฐจีนซึ่งอยู่ภายใต้การนำของก๊กมินตั๋งได้ย้ายเมืองหลวงไปยังไทเปบนเกาะไต้หวัน นับแต่นั้นมา สาธารณรัฐประชาชนจีนได้เข้าไปมีส่วนเกี่ยวข้องในความขัดแย้งทางการเมือง กับสาธารณรัฐจีนเหนือปัญหาอธิปไตยและสถานะทางการเมืองของไต้หวัน การปกครองในช่วงแรกในระบอบคอมมิวนิสต์เป็นจุดเริ่มต้นของการก้าวกระโดดไกลไปข้างหน้า ทว่ากลับส่งผลให้เศรษฐกิจถดถอยอย่างมากและเป็นยุคที่ประชาชนเผชิญความอดอยากมากที่สุดครั้งหนึ่ง ในระหว่าง ค.ศ. 1966 – 1976 เป็นทศวรรษแห่งการปฏิวัติทางวัฒนธรรมนำโดย เหมา เจ๋อตง นำไปสู่ความสูญเสียครั้งใหญ่และการกวาดล้างโดยรัฐบาล การปฏิรูปเศรษฐกิจโดยเติ้ง เสี่ยวผิง ถือเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์ประวัติศาสตร์ ทว่าการปฏิรูปทางการเมืองต้องหยุดชะงักลงสืบเนื่องจากการประท้วงที่จัตุรัสเทียนอันเหมินซึ่งจบลงด้วยการสังหารหมู่ แม้จะเผชิญกับความขัดแย้งหลายครั้ง แต่เศรษฐกิจก็เติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่องจนถึงปัจจุบัน
จีนมีสภาพเป็นรัฐเดี่ยวปกครองด้วยระบบพรรคการเมืองเดียว เป็นหนึ่งในห้าสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ และเป็นสมาชิกร่วมก่อตั้งขององค์กรสำคัญหลายแห่งในภูมิภาค อาทิ ธนาคารเพื่อการลงทุนโครงสร้างพื้นฐานแห่งเอเชีย, กองทุนเส้นทางสายไหม และ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค รวมทั้งเป็นสมาชิกของบริกส์, กลุ่ม 20, ความร่วมมือทางเศรษฐกิจเอเชีย-แปซิฟิก และ การประชุมสุดยอดเอเชียตะวันออก จีนได้รับการจัดอันดับต่ำในแง่ประชาธิปไตย, การทุจริต, สิทธิมนุษยชน, เสรีภาพสื่อ และความแตกต่างทางชาติพันธุ์ นับตั้งแต่การปฏิรูปเศรษฐกิจเมื่อ ค.ศ. 1978 จีนกลายเป็นหนึ่งในชาติที่มีการเติบโตทางเศรษฐกิจที่เร็วที่สุดในโลก[14] โดยเป็นผู้ส่งออกสินค้ารายใหญ่ที่สุดของโลก และเป็นผู้นำเข้ารายใหญ่อันดับสองของโลก และเป็นเศรษฐกิจที่มีขนาดใหญ่ที่สุดเป็นอันดับสองของโลกทั้งในด้านผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศราคาตลาด และความเท่าเทียมของอำนาจซื้อ[15] จีนได้รับการจัดให้เป็นรัฐอาวุธนิวเคลียร์และมีกองทัพขนาดใหญ่ที่สุดในโลกซึ่งมีค่าใช้จ่ายด้านกลาโหมมากที่สุดเป็นอันดับสองของโลก ปัจจุบันจีนถือเป็นชาติมหาอำนาจของโลก