โรคหัดเยอรมัน
From Wikipedia, the free encyclopedia
โรคหัดเยอรมัน หรือโรคเหือด (อังกฤษ: Rubella, German measles) หรือโรคหัดสามวัน (three-day measles) เป็นการติดเชื้อเกิดจากไวรัสหัดเยอรมัน โรคนี้มักไม่ร้ายแรงโดยผู้ป่วยครึ่งหนึ่งไม่รู้สึกตัวว่าป่วย ผื่นอาจเริ่มมีราวสองสัปดาห์หลังสัมผัสเชื้อและอยู่นานสามวัน ปกติเริ่มบนหน้าแล้วแพร่ไปร่างกายที่เหลือ ผื่นของโรคหัดเยอรมันสีไม่สดเท่าผื่นของโรคหัดและบ้างคัน พบต่อมน้ำเหลืองโตได้ทั่วไปและอาจอยู่นานหลายสัปดาห์ นอกจากนี้ อาจมีไข้ เจ็บคอและความล้า ในผู้ใหญ่ อาการปวดข้อพบได้บ่อย อาการแทรกซ้อนอาจรวมปัญหาเลือดออก อัณฑะบวม และการอักเสบของเส้นประสาท การติดเชื้อระหว่างช่วงต้นของการตั้งครรภ์อาจส่งผลให้เด็กเกิดมามีกลุ่มอาการโรคหัดเยอรมันแต่กำเนิด (CRS) หรือแท้ง อาการของ CRS มีปัญหาเกี่ยวกับตา เช่น ต้อกระจก หู เช่น หูหนวก หัวใจและสมอง พบปัญหาน้อยหลังสัปดาห์ที่ 20 ของการตั้งครรภ์
บทความนี้ไม่มีการอ้างอิงจากแหล่งที่มาใด |
โรคหัดเยอรมัน (Rubella) | |
---|---|
ผื่นจากโรคหัดเยอรมันบนหลังของเด็ก บริเวณที่เป็นคล้ายกับของโรคหัด แต่ผื่นสีแดงไม่สดเท่า | |
บัญชีจำแนกและลิงก์ไปภายนอก | |
ICD-10 | B06 |
ICD-9 | 056 |
DiseasesDB | 11719 |
MedlinePlus | 001574 |
eMedicine | emerg/388 peds/2025 derm/259 |
โรคหัดเยอรมันปกติแพร่ผ่านอากาศโดยทางการไอของผู้ที่ติดเชื้อ บุคคลแพร่เชื้อได้ระหว่างหนึ่งสัปดาห์ก่อนและหลังผื่นปรากฏ ทารกที่เป็น CRS อาจแพร่ไวรัสได้กว่าหนึ่งปี มีเฉพาะมนุษย์ที่ติดเชื้อ แมลงไม่แพร่โรค เมื่อฟื้นตัวแล้ว บุคคลจะมีภูมิคุ้มกันต่อการติดเชื้อในอนาคต มีการทดสอบซึ่งสามารถพิสูจน์ยืนยันภูมิคุ้มกันได้ ยืนยันการวินิจฉัยโดยการพบไวรัสในเลือด คอหรือปัสสาวะ การทดสอบเลือดหาแอนติบอดีอาจเป็นประโยชน์ด้วย
โรคหัดเยอรมันป้องกันได้ด้วยวัคซีนโรคหัดเยอรมันเพียงขนาดยาเดี่ยว - วัคซีนป้องกันโรคหัดเยอรมัน. มีประสิทธิผลกว่า 95% มักให้ร่วมกับวัคซีนโรคหัดและวัคซีนคางทูม เรียก วัคซีนหัด-หัดเยอรมัน-คางทูม (MMR) ทว่า ด้วยอัตราการให้วัคซีนในประชากรน้อยกว่า 80% อาจมีหญิงที่มีชีวิตถึงวัยเจริญพันธุ์มากขึ้นโดยไม่มีการพัฒนาภูมิคุ้มกันและปัญหาอาจเพิ่มขึ้น เมื่อติดเชื้อแล้ว ไม่มีการรักษาจำเพาะ
โรคหัดเยอรมันเป็นการติดเชื้อทั่วไปในหลายบริเวณของโลก มีผู้ป่วยกลุ่มอาการโรคหัดเยอรมันแต่กำเนิดประมาณ 100,000 คนต่อปี อัตราของโรคลดลงในหลายพื้นที่รวมทั้งทวีปอเมริกาอันเป็นผลจากการให้วัคซีน กำลังมีความพยายามกำจัดโรคนี้ทั่วโลก ชื่อ "รูเบลลา" มาจากภาษาละติน หมายถึง "แดงเล็กน้อย" แพทย์ชาวเยอรมันอธิบายโรคดังกล่าวเป็นโรคต่างหากครั้งแรกใน ค.ศ. 1814 ในชื่อ "โรคหัดเยอรมัน" วันที่ 29 เมษายน 2558 สำนักงานองค์การอนามัยโลกในกรุงวอชิงตัน ดี.ซี. ประกาศให้ภูมิภาคทวีปอเมริกาปลอดจากการส่งผ่านโรคหัดเยอรมันประจำถิ่นอย่างเป็นทางการ