มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด
From Wikipedia, the free encyclopedia
มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด (อังกฤษ: University of Oxford หรือ Oxford University) หรือชื่อเรียกอย่างง่ายว่า ออกซฟอร์ด เป็นมหาวิทยาลัยวิจัยซึ่งตั้งอยู่ในเมืองออกซฟอร์ด ประเทศอังกฤษ สหราชอาณาจักร แม้ว่าจะไม่มีหลักฐานประวัติการก่อตั้งที่แน่นอน แต่มีบันทึกเป็นหลักฐานว่าได้เริ่มสอนมาตั้งแต่ ค.ศ. 1096[2] ทำให้ถือว่าเป็นมหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในกลุ่มประเทศที่ใช้ภาษาอังกฤษเป็นภาษาแม่ และเก่าแก่เป็นอันดับสองในบรรดามหาวิทยาลัยเก่าแก่ที่สุดของโลกที่ยังเปิดสอน[2][10] ออกซฟอร์ดเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็วในปี ค.ศ. 1167 เมื่อพระเจ้าเฮนรีที่ 2 ทรงห้ามมิให้นักศึกษาชาวอังกฤษไปศึกษาที่มหาวิทยาลัยปารีส[2] ภายหลังจากการพิพาทระหว่างนักศึกษาและชาวเมืองออกซฟอร์ดในปี ค.ศ. 1206 นักวิชาการบางส่วนได้หนีไปทางตะวันออกเฉียงเหนือสู่เมืองเคมบริดจ์ ซึ่งพวกเขาได้ก่อตั้งมหาวิทยาลัยเคมบริดจ์ขึ้น[11] ทั้งสอง "มหาวิทยาลัยโบราณ" มักจะถูกเรียกว่า "ออกซบริดจ์"
ลิงก์ข้ามภาษาในบทความนี้ มีไว้ให้ผู้อ่านและผู้ร่วมแก้ไขบทความศึกษาเพิ่มเติมโดยสะดวก เนื่องจากวิกิพีเดียภาษาไทยยังไม่มีบทความดังกล่าว กระนั้น ควรรีบสร้างเป็นบทความโดยเร็วที่สุด |
ตราอาร์มของมหาวิทยาลัยออกซฟอร์ด | |
ละติน: Universitas Oxoniensis | |
ชื่ออื่น | The Chancellor, Masters and Scholars of the University of Oxford[1] |
---|---|
คติพจน์ | ละติน: Dominus illuminatio mea |
คติพจน์อังกฤษ | The Lord is my Light (พระเจ้าเป็นนิมิตของข้า) |
ประเภท | รัฐ มหาวิทยาลัยวิจัย Ancient university |
สถาปนา | ป. 1096; 928 ปีที่แล้ว (1096)[2] |
สังกัดวิชาการ |
|
ทุนทรัพย์ | £6.1 พันล้าน (รวมทั้งวิทยาลัย) (2019)[3] |
งบประมาณ | £2.145 พันล้าน (2019–20)[3] |
อธิการบดี | The Lord Patten of Barnes |
รองอธิการบดี | Louise Richardson[4][5] |
อาจารย์ | 6,995 (2020)[6] |
ผู้ศึกษา | 24,515 (2019)[7] |
ปริญญาตรี | 11,955 |
บัณฑิตศึกษา | 12,010 |
ผู้ศึกษาอื่น | 541 (2017)[8] |
ที่ตั้ง | , ประเทศอังกฤษ 51°45′18″N 01°15′18″W |
วิทยาเขต | เมืองมหาวิทยาลัย |
สี | น้ำเงินออกซฟอร์ด[9] |
เครือข่ายกีฬา | บลู |
เว็บไซต์ | ox |
มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดเติบโตขึ้นจากความหลากหลายของสถาบันการศึกษาต่าง ๆ รวมถึงวิทยาลัยร่วมทั้ง 39 แห่ง และหน่วยงานทางวิชาการซึ่งแบ่งออกเป็นสี่แผนก[12] แต่ละวิทยาลัยมีระบบการจัดการอย่างอิสระในการควบคุมสมาชิกรวมทั้งมีระบบโครงสร้างภายในและกิจกรรมเป็นของตนเอง[13] มีลักษณะเป็นเมืองมหาวิทยาลัยซึ่งมีอาคารและสิ่งอำนวยความสะดวกกระจายอยู่ทั่วใจกลางเมือง การศึกษาระดับปริญญาตรีส่วนใหญ่ที่ออกซฟอร์ดเป็นการจัดการด้วยวิธีติวเตอร์ตลอดรายสัปดาห์ไปในแต่ละวิทยาลัยและฮอลล์ต่าง ๆ โดยได้รับการสนับสนุนจากชั้นเรียน การบรรยาย และการปฏิบัติการซึ่งจัดขึ้นโดยคณะและภาควิชาต่าง ๆ ของมหาวิทยาลัย
มหาวิทยาลัยออกซฟอร์ดยังดำเนินงานพิพิธภัณฑ์มหาวิทยาลัยที่เก่าแก่ที่สุดในโลก รวมถึงสำนักพิมพ์มหาวิทยาลัยที่ใหญ่ที่สุดในโลก[14] และมีระบบห้องสมุดทางวิชาการที่ใหญ่ที่สุดในบริเตน[15] ออกซฟอร์ดมีศิษย์เก่าที่มีชื่อเสียงจำนวนมาก รวมถึงผู้ได้รับรางวัลโนเบล 28 คน นายกรัฐมนตรีสหราชอาณาจักร 27 คน ประมุขแห่งรัฐและผู้นำรัฐบาลหลายแห่งทั่วโลก[16] ออกซฟอร์ดเป็นแหล่งที่ตั้งของทุนการศึกษาโรดส์ซึ่งเป็นหนึ่งในทุนการศึกษานานาชาติที่เก่าแก่ที่สุดในโลกและมีชื่อเสียงมากที่สุด ซึ่งได้นำนักศึกษาระดับบัณฑิตศึกษาเข้าศึกษาต่อที่มหาวิทยาลัยมานานกว่าศตวรรษ